ประเทษอียิปต์
อียิปต์ เป็นประเทศทีมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึง 5,000 กว่าปี ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1882 อังกฤษส่งเรือรบไปยังเมืองท่าอเล็กซานเดรีย และยึดครองอียิปต์ได้สำเร็จ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษได้ประกาศว่าอียิปต์เป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ชาวอียิปต์ที่รักชาติได้เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเอกราช ใน ค.ศ. 1922 อังกฤษได้ให้เอกราชแก่อียิปต์ โดยเมื่อแรกรับเอกราช อียิปต์ได้ปกครองโดยราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลี ที่สืบเชื้อสายจากสุลต่านแห่งอียิปต์ โดยสุลต่านฟูอัด ได้สถาปนาพระองค์เป็น พระเจ้าฟูอัดที่ 1 แห่งอียิปต์ และปกครองต่อมาอีกสองพระองค์คือ พระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ และพระเจ้าฟูอัดที่ 2 แห่งอียิปต์ ก็เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลี และระบอบกษัตริย์แห่งอียิปต์ โดยได้มีการทำรัฐประหารเป็นระบอบสาธารณรัฐจนถึงปัจจุบัน
ประเพณีวัฒนธรรม
โดยทั่วไปคนอียิปต์ที่มีการศึกษาที่ดีสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้และผู้เดินทางท่านใดที่สามารถพูดภาษาอาหรับแม้เพียงไม่กี่คำก็เอาตัวรอดได้ เนื่องจากคนพื้นเมืองโดยทั่วไปมีประเพณีการต้อนรับแขกมาตั้งแต่โบราณแล้ว
คนอียิปต์เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี คุ้นเคยต่อนักท่องเที่ยว กระตือรือร้นที่จะทักทายกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และมักจะยินดีที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอียิปต์ ในการสนทนา คนอียิปต์มักจะสบตากับคู่สนทนาเพื่อเป็นการให้เกียรติ และ ชอบใช้สัญลักษณ์ เช่นการใช้สัญญาณมือประกอบการอธิบายต่างๆ นอกจากนี้ สุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสตัวโดยเฉพาะจากเพศตรงข้าม และการโอบกอดในที่สาธารณะ
วันสำคัญของอียิปต์
วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นวันชาติ (Revolution Day) ของอียิปต์
วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นวันประกาศเอกราชจากอังกฤษ (เมื่อปี ค.ศ.1953)
วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย
เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศที่มีผู้คนมากหมายต่างความเชื่อ ต่างวัฒนธรรมทำให้วัฒนธรรมการแต่งกายของคนอียิปต์มีความแตกต่างโดยมีพื้นฐานทางด้านความเชื่อเช่นมุสลิม คริสต์เตียน ยิว
คนอียิปต์เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี คุ้นเคยต่อนักท่องเที่ยว กระตือรือร้นที่จะทักทายกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และมักจะยินดีที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอียิปต์ ในการสนทนา คนอียิปต์มักจะสบตากับคู่สนทนาเพื่อเป็นการให้เกียรติ และ ชอบใช้สัญลักษณ์ เช่นการใช้สัญญาณมือประกอบการอธิบายต่างๆ นอกจากนี้ สุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสตัวโดยเฉพาะจากเพศตรงข้าม และการโอบกอดในที่สาธารณะ
วันสำคัญของอียิปต์
วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นวันชาติ (Revolution Day) ของอียิปต์
วันที่ 28 กุมภาพันธ์เป็นวันประกาศเอกราชจากอังกฤษ (เมื่อปี ค.ศ.1953)
วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย
เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศที่มีผู้คนมากหมายต่างความเชื่อ ต่างวัฒนธรรมทำให้วัฒนธรรมการแต่งกายของคนอียิปต์มีความแตกต่างโดยมีพื้นฐานทางด้านความเชื่อเช่นมุสลิม คริสต์เตียน ยิว
สตรี ผู้หญิงจำนวนมากในประเทศอียิปต์เป็นคนสวย ผู้หญิงชาวอียิปต์เป็นคนที่ได้รับการศึกษาที่ดี เป็นคนทีใช้จ่ายเงินเก่งในอียิปต์ 85% จะ เก็บตัวเองเป็นผู้หญิงพรมจารี (หญิงบริสุทธิ์)จนกว่าพวกเขาจะได้แต่งงานนีคือคนสามัญชนที่ดีเยี่ยมในตะวัน ออกกลาง
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนมากสวมผ้าโพกหัวหรือสะพายไหล่ของสตรีซึ่งคลุม เฉพาะศีรษะแต่เปิดเผยใบหน้า และก็มีบางกลุ่มที่ปิดหน้าเผยให้เห็นแต่ดวงตา เป็นธรรมดาของทุกวันนี้ทุกวันนี้ผู้หญิงในอียิปต์จำนวนมากสวมผ้าคลุ่มหัว ซึ่งเป็นการแสดงถึงความถ่อมตัวหรือมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนา
บุรุษ ผู้ชายในชนบทของประเทศอียิปต์จะแต่งชุดโตบและใส้จะสวมสารบานไว้บนหัวและคนที่มีอาชีพครูสอนศาสนาแต่คนในเมืองใหญ่เช่น เมือง งอเล็กซานเดรีย และเมืองไคโรผู้คนส่วนใหญ่จะสวมเสื้อเชิดกางเกงและรองเท้าหนังโดยเฉพาะคนที่ ทำงานในงานบริการเช่น โรงแรมและธนาคาร
อาหารหลักของคนอียิปต์
การกินอาหารของคนในตะวันออกกลางจะมีความแตกต่างมาก อาหารหลักของทุกชนชั้นของคนอียิปต์ นั้น คือ ขนมปัง หัว หอม พวกผักต่างๆ แล้วก็ปลาแห้ง นอกจากนี้ คนอียิปต์จะมีน้ำเชื่อมซึ่ง ทำจากผลไม้ เพื่อให้ได้รสหวานและจะกินกับขนมปังซึ่งจะใช้ขนมปังจิ้มกับน้ำเชื่อม และนอกจากขนมปังแล้วเขาจะกินโยเกิตย์พร้อมๆกับเมนูอาหารหลักอีกด้วยส่วน อาหารประเภทเนื้อสัตว์นี้ก็มี สัตว์ที่นิยมรับประทานก็คือพวก เนื้อแกะ แพะ และเนื้อวัว
อาหารประเภทกาบับ ( Kabab ) ก็ เป็นเนื้อ หรือ แพะ ย่างโดยมีเหล็กแหลม เสียบชิ้นเนื้อโดยหมุนชิ้นเนื้อให้ไฟเลียไปทั่วๆ กินกับผักทั้งผักสดเช่น แตงกวา มะเขือเทศ ต้นหอม กับผักดองเช่น แตงกวา มะเขือเปาะ หัวหอม แครอท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น